
เล่นน้ำหน้าร้อนอย่างไร ให้ปลอดภัยต่อดวงตา
23 เมษายน 2566
โรคติดเชื้อทางตา ที่มากับการเล่นน้ำคลายร้อน มีอะไรบ้างที่เราควรต้องระวัง !
1. เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง จากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
เกิดจากน้ำที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย จะเริ่มมีอาการตาแดง มีขี้ตาขาวหรือเหลือง ระคายเคืองตาหลังจากเชื้อโรคเข้าตาประมาณ 1-3 วัน หากมีอาการดังกล่าวให้รีบพบจักษุแพทย์เพื่อให้ยารักษา ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน หรือทานยา หยอดยาสเตียรอยด์ มีโรคหรือความผิดปกติของผิวตาอยู่แล้ว เช่น ตาแห้งมาก ภูมิแพ้ที่ตามาก เป็นต้น และคนที่ใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำ ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
Conjunctivitis
2. กระจกตาเป็นแผลอักเสบติดเชื้อ
คนที่ผิวกระจกตามีรอยถลอก หรือผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำ จะมีความเสี่ยงสูงที่เชื้อโรคจะเข้าไปในกระจกตาได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวกระจกตา หากรักษาช้าอาจลุกลามจนเกิดแผลกว้างที่กระจกตา หรือติดเชื้อเข้าไปในลูกตาทำให้ตาบอดได้ คนไข้จะเริ่มมีอาการปวดตามาก ตาแดง มีขี้ตา ตามัวลง แพ้แสงและจะสังเกตุเห็นจุดขาวๆ ที่บริเวณตาดำ หากมีอาการดังกล่าวต้องรีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน
คนที่ใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออะมีบาที่กระจกตาดำได้ง่าย เนื่องจากเชื้ออะมีบาชอบอยู่ในน้ำ สามารถเกาะคอนแทคเลนส์และผิวตา ทำให้กระจกตาเกิดแผลและติดเชื้อรุนแรงได้ หากติดเชื้อนี้จะรักษาได้ยาก และใช้เวลารักษานาน คนไข้ที่ติดเชื้อนี้มักจะเกิดแผลเป็นที่กระจกตาดำถาวร อาจต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาใหม่ อาการเมื่อติดเชื้ออะมีบา นอกจากอาการดังกล่าวที่หมอกล่าวไว้ด้านบน คนไข้จะมีอาการปวดตารุนแรงมากๆ หากสงสัยต้องรีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน ไม่ควรซื้อยาหยอดเอง เพราะหากหยอดยาสเตียรอยด์จะทำให้เชื้อลุกลามได้อย่างรวดเร็ว
Corneal ulcer
เชื้ออีกตัวนึงที่ชอบมากับน้ำที่ไม่สะอาด น้ำเปื้อนดิน โคลน น้ำที่อยู่นิ่งๆ คือเชื้อปรสิตไมโครสปอริเดีย เมื่อเชื้อนี้เข้าตาจะทำให้มีอาการตาแดง เคืองตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา น้ำตาไหล ไม่ค่อยมีขี้ตา และอาจมีอาการตามัวได้ อาการจะแสดงช้ากว่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้ออะมีบา โดยจะมีอาการประมาณ 5-7 วัน หรืออาจนานถึง 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ หากคนไข้ซื้อยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์จะทำให้การติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากสงสัยควรเข้าพบจักษุแพทย์
*Microsporidial keratitis
3. เยื่อบุตาอักเสบหรือกระจกตาอักเสบจากถูกน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี
หากถูกน้ำหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ เข้าตาแล้วมีอาการแสบตา ร้อนในตา เคืองตามาก ให้รีบใช้น้ำดื่มสะอาด น้ำเกลือ หรือน้ำยาล้างตาที่หาได้เร็วที่สุดล้างออกให้มากที่สุด อย่างน้อยๆ 1-2 ลิตร หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบจักษุแพทย์ เพราะหากสารเคมีที่เข้าตานั้นมีความเป็นกรด หรือด่างที่มากจะเกิดการทำลายเยื้อบุตาและกระจกตาที่ค่อนข้างรุนแรง
หน้าร้อนนี้กิจกรรมคลายร้อนยอดนิยมคงหนีไม่พ้นการเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน เช่น ดำน้ำ เล่นน้ำตก และเล่นสวนน้ำ แต่ถึงจะเป็นการเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือในสระว่ายน้ำ น้ำเหล่านั้นอาจปนเปื้อนไปด้วยเชื้อโรค รวมไปถึงสารเคมีอย่างคลอรีน ดังนั้นจึงไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำ และหากน้ำเข้าตาควรรีบถอดคอนแทคเลนส์ทันที และถ้ามีอาการผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์ค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์จักษุกรรมและเลสิก
โทร. 02-408-0113
อ้างอิง
ภาพ Microsporidial keratitis : Tangtammaruk, P., & Chuckpaiwong, V. (2021). Bilateral infectious keratoconjunctivitis, a way to recognize microsporidial keratitis: A case report. The THAI Journal of OPHTHALMOLOGY, 35(1), 25-29.
สอบถามเพิ่มเติม / นัดหมายพบแพทย์
บทความโดย